พิโกเงินด่วนเชื่อว่า คงมีมนุษย์เงินเดือนหลายคนเลยล่ะที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่ ดังนั้นหากคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่เจอปัญหานี้อยู่ ต้องมารวมกันตรงนี้! เพราะในวันนี้ Pico เงินด่วน จะมาบอกเทคนิคพิชิตหนี้ฉบับมนุษย์เงินเดือนให้คุณได้ทราบ และนำไปใช้จัดการรายรับ-รายจ่ายของคุณกัน ใครที่ไม่อยากเป็นหนี้ และอยากมีเงินเก็บเผื่อสำหรับอนาคต ต้องห้ามพลาด!

4 เทคนิคพิชิตหนี้ ให้มีเงินออม (ฉบับมนุษย์เงินเดือน)

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ มักจะเกิดปัญหา “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” ที่เกิดจากการมีรายจ่าย หรือหนี้ที่ต้องจ่าย มากกว่ารายรับที่ได้ในแต่ละเดือน จนทำให้ไม่สามารถแบ่งเงินเพื่อมาเก็บออมได้เลย โดยหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ถูกให้ออกจากงาน ต้องเข้ารับการรักษา คุณก็จะไม่มีเงินสำรองที่นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และชำระหนี้ต่าง ๆ ในขณะนั้น จนต้องหันไปกู้เงินเพื่อนำมาใช้จ่ายแทน ซึ่งจะทำให้คุณมีหนี้เพิ่มขึ้น และสะสมไปเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นหนี้ซ้ำซ้อน ดังนั้น คุณจึงควรหาเทคนิคพิชิตหนี้ และเริ่มต้นออมเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้เกิดเป็นหนี้ซ้ำซ้อนที่แก้ไขยาก และใช้เวลานาน จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. หยุดวงจรการสร้างหนี้ในทันที

หากคุณมีหนี้เก่าที่ยังชำระไม่หมด ก็ต้องหยุดสร้างหนี้ใหม่ และต้องเข้มงวดกับสิ่งเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดหนี้ใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ จนชำระเท่าไหร่ก็ไม่หมด

• ตัดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

สิ่งแรกที่ต้องทำในการหยุดวงจรการสร้างหนี้ก็คือ การตัดและควบคุมรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การชอปปิง, การสังสรรค์, การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายจ่ายที่เรามักจะทุ่มทุนลงไปมากที่สุด ให้ลดลงหรือหายไปก่อนในช่วงนึง ซึ่งวิธีนี้ เป็นวิธีที่จะทำให้คุณสามารถปลดหนี้ได้เร็วที่สุด เพราะคุณจะมีเงินเหลือพอที่จะไปชำระหนี้ให้หมดไป

• หยุดใช้บัตรเครดิตทันที!

บัตรเครดิต ถือเป็นตัวในการจับจ่ายใช้สอยที่สะดวกสบาย ทั้งสามารถใช้ผ่อนสินค้าได้ รวมถึงมีส่วนลด และสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร หรือใช้จ่ายตามยอดที่กำหนดไว้อีกด้วย ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้แหละ ที่ทำให้บัตรเครดิตกลายเป็นตัวสร้างหนี้อย่างไม่รู้จบ

โดยหากคุณไม่สามารถวางแผนการใช้จ่ายบัตรเครดิตที่มีอยู่ได้ ก็จะเป็นการสร้างหนี้เกินกว่าที่จะจ่ายไหว ดังนั้น หากคุณเริ่มรู้สึกว่า หนี้บัตรเครดิตในแต่ละเดือนเริ่มสูงเกินกำลังจะจ่ายไว้ ต้องหยุดการใช้บัตรเครดิตในทันที และต้องรีบจัดการชำระหนี้ส่วนที่ค้างไว้ให้เร็วที่สุด

• หยุดการหมุนเงินมาโปะหนี้

การถอนเงินสดจากบัตรเครดิตออกมาใช้จ่ายหนี้บัตรเครดิตอีกใบหนึ่ง ไม่สามารถทำให้คุณปลดหนี้ได้ แถมยังอาจจะทำให้คุณมีหนี้เพิ่มขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยในส่วนที่หยิบยืมมาใช้ได้อีกด้วย ดังนั้น การหมุนเงินมาโปะหนี้ จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ควรทำคือการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน รวมถึงวางแผนการชำระหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. แยกประเภทหนี้ให้ถูกต้อง

เมื่อหยุดวงจรการสร้างหนี้ได้แล้ว อันดับต่อไปก็คือการจำแนกประเภทหนี้ให้ถูกต้อง โดยหลัก ๆ แล้ว จะสามารถแบ่งหนี้ออกได้ 2 ประเภท คือ

• หนี้ดี คือหนี้ที่สามารถสร้างรายได้กลับมาให้เราในภายหลังได้ เช่น การลงทุนสร้างอสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถสร้างรายได้กลับมาจากการปล่อยเช่า และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา นอกจากนี้ยังสามารถปล่อยขายในภายหลังได้อีกด้วย
• หนี้ไม่ดี คือหนี้ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ใด ๆ กลับมาเลย เป็นหนี้ที่เกิดจากความฟุ่มเฟือยของตัวเอง เช่น การซื้อเสื้อผ้า การทานอาหารราคาแพงเป็นประจำ เป็นต้น

เมื่อแยกประเภทหนี้ได้แล้ว ก็ให้นำหนี้ทั้ง 2 ประเภทมาจัดอันดับและแยกแยะว่า หนี้ก้อนไหนต้องเสียดอกเบี้ยมากที่สุด และเริ่มปลดหนี้ส่วนนั้นก่อน เพื่อให้สามารถปลดหนี้ได้ไวยิ่งขึ้น

3. ปรับแผนทางการเงินใหม่

วิธีการที่จะทำให้ปลดหนี้ได้อย่างยั่งยืน และสร้างนิสัยการใช้เงินดี ๆ ให้กับคุณได้ ก็คือการปรับแผนทางการเงินใหม่ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยควบคุมการใช้จ่ายของคุณได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังทำให้คุณมีเป้าหมายที่ตั้งใจในระยะยาวได้อีกด้วย โดยเราขอแบ่งเป็น 3 สิ่งที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

• ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย จะทำให้เราเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่า ในแต่ละเดือนเราใช้จ่ายในเรื่องอะไรไปเท่าไหร่บ้าง เพราะในบางครั้ง รายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราไม่ได้คิดอะไร กลับเป็นรายจ่ายสูงที่สุดในแต่ละเดือนเมื่อนำมารวมกัน เช่น ค่ากาแฟ ค่าขนมจุบจิบ ค่าเครื่องดื่ม เป็นต้น ซึ่งรายจ่ายเหล่านี้ อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เรามีเงินใช้จ่ายในแต่ละเดือนไม่พอก็ได้ ดังนั้น เมื่อเราทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และทราบแล้วว่าค่าใช้จ่ายอะไรที่สูงกว่าส่วนอื่น ๆ ก็จะทำให้เราสามารถจัดการรายจ่ายส่วนนั้นให้ลดลงได้

• ตั้งเป้าหมายทางการเงิน

หากเป็นคนที่ไม่มีหนี้สิน เป้าหมายทางการเงินก็คงจะเป็นการกำหนดจำนวนเงินเก็บ และเก็บออมเงินให้ถึงเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ แต่สำหรับคนที่ยังมีหนี้อยู่ การตั้งเป้าหมายทางการเงิน อาจเป็นการตั้งเป้าการชำระหนี้ให้ครบโดยเร็ว ซึ่งการตั้งเป้าหมายแบบนี้ จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการปลดหนี้ให้ได้ตามกำหนด และมีวินัยทางการเงินมากขึ้น

• รู้จักการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ 

การลงทุน ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถปลดหนี้ได้เร็วขึ้น โดยอาจจะแบ่งหนี้ที่สามารถชำระได้ในระยะยาวออกมา และคำนวณดูว่า การลงทุนแบบไหนที่สามารถสร้างรายได้พอที่จะชำระหนี้ก้อนนี้ได้บ้าง 

แต่ที่สำคัญคือ หากคุณไม่มีความรู้ด้านการลงทุน หรือรู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะลงทุน ก็ไม่ควรจะนำเงินส่วนนี้ไปเสี่ยง เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้ และคาดเดาทิศทางได้ยาก หากต้องการลงทุนควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และศึกษาให้ดีก่อนเสมอ

4. เจรจากับธนาคาร

หากมีปัญหาหนี้บัตรเครดิตที่มากเกินกว่าจะชำระหมดได้ อย่ากลัวที่จะเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่หรือธนาคาร เพราะวิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการหนี้ที่มากเกินจะรับไหวนี้ คือการขอประนอมหนี้ และทำการตกลงกับธนาคารในการปลดหนี้ที่มีทั้งหมดใหม่ เช่น การขอปรับลดดอกเบี้ยชั่วคราว, การขอชำระแค่ดอกเบี้ยชั่วคราว, การขอหยุดชำระหนี้ชั่วคราว เป็นต้น

ซึ่งวิธีนี้ จะทำให้เรามีเวลากลับมาตั้งหลักและจัดการวางแผนทางการเงินให้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารว่า จะเริ่มต้นปรับโครงสร้างหนี้ได้อย่างไรบ้าง และถึงแม้ว่าจะเข้าไปขอประนอมหนี้กับธนาคารเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะต้องหาทางชำระหนี้ให้หมดอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะตามมาในภายหลัง

ได้ทราบเทคนิคพิชิตหนี้ฉบับมนุษย์เงินเดือนกันไปแล้ว ใครมีหนี้บัตรเครดิตที่มากเกินจะรับไหว ก็อย่าลืมนำวิธีเหล่านี้ไปลองใช้กันดู แต่ทางที่ดี หากคุณยังไม่มีบัตรเครดิต และรู้อยู่แล้วว่า เงินเดือนที่คุณได้รับในแต่ละเดือน ไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายหนี้ที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ก็อย่าเพิ่งรีบทำบัตรเครดิตกันล่ะ ตัดไฟแต่ต้นลมจะดีกว่า

สุดท้ายนี้ Pico เงินด่วน พร้อมอยู่เคียงข้าง และคำปรึกษาเรื่องเงินกับผู้ที่มีปัญหาด้านการเงินทุกท่าน โดยเราเป็นผู้ให้บริการเงินด่วนที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ใบอนุญาตเลขที่ 273/2561 เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขอสินเชื่อทุกท่าน สำหรับผู้ที่สนใจขอสินเชื่อ หรือต้องการคำแนะนำด้านสินเชื่อ ก็สามารถติดต่อเราได้ที่ Line: @picoth

ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ยังหลงเชื่อ มักจะเป็นผู้สูงอายุที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร หรือไม่ทันกลลวงของเหล่ามิจฉาชีพ แน่นอนว่าในวันนี้ พิโกได้รวบรวมเอา 6 มุกหลอกลวงเงินที่มิจฉาชีพชอบใช้ มาให้คุณได้รู้ และนำไปแนะนำแก่ผู้สูงอายุที่บ้านกัน จะมีมุกไหนที่คุณเคยโดนบ้าง ไปดูกันเลย!

6 มุกหลอกลวงเงินที่พี่มิจ (ฉาชีพ) ชอบใช้ รู้ไว้เงินไม่หาย

เพราะในปัจจุบันนี้ เหล่ามิจฉาชีพไม่ได้ลวงเงินไปเพียงแค่หลักร้อย หรือหลักพัน แต่มากถึงหลักแสน หลักล้าน ดังนั้น การมีความรู้เกี่ยวกับมุกหลอกลวงที่มิจฉาชีพชอบใช้ จะช่วยให้คุณมีเกราะป้องกัน และไม่หลงเชื่อกลลวงเหล่านี้ง่าย ๆ 

1. แอบอ้างเป็นคนในครอบครัว หรือบุคคลใกล้ชิด

   การแฮคหรือปลอมแปลง Facebook ส่วนตัว ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยากแล้วในปัจจุบัน ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชอบลงรูปภาพหรือข้อมูลส่วนตัวในโซเชียลมีเดียก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ โดยมิจฉาชีพเหล่านี้ จะทำการแฮ็ก Facebook หรือสร้าง Facebook ปลอมขึ้นมา จากนั้นก็ส่งข้อความเพื่อขอยืมเงินจากเพื่อน ญาติ หรือครอบครัวของเจ้าของ Facebook ตัวจริง

   โดยจะส่งข้อความเป็นเชิงว่า ตอนนี้กำลังเดือดร้อน ต้องการใช้เงิน เพื่อทำให้ผู้ที่ได้รับข้อความรู้สึกเห็นใจ และโอนเงินมาให้ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ผู้สูงอายุมักจะโดนหลอกมากที่สุด เพราะมิจฉาชีพ จะใช้ความเห็นใจมาเป็นเครื่องมือ ดังนั้น หากมีข้อความเหล่านี้เข้ามา และดูผิดวิสัยไปจากความเป็นจริงของเจ้าของ Facebook ก็ควรจะโทรไปสอบถามให้แน่ชัดเสียก่อน นอกจากนี้ หากมั่นใจแล้วว่าเป็นมิจฉาชีพที่ปลอมแปลงหรือแฮค Facebook มา ก็ควรจะแจ้งให้คนรอบตัวรู้

    

2. เข้ามาจีบให้ตายใจ แล้วชวนลงทุน

   เชื่อว่าในปัจจุบันคงจะมีหลายคนที่เข้าไปใช้บริการแอปฯ หาคู่ หรือช่องทางบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในการหาแฟน หรือหาเพื่อนคุยอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่เข้ามาพูดคุยกับเราจะมีวัตถุประสงค์เพื่อทำความรู้จักหรือพูดคุยเหมือนกัน เพราะมีมิจฉาชีพบางส่วนที่ใช้พื้นที่ตรงนี้ ในการเข้ามาพูดคุย หรือจีบเหยื่อให้ตายใจ และโอนเงินให้ จากนั้นก็เชิดเงินแล้วหนีหายไป ดังนั้น หากคนที่พบเจอกันบนแอปฯ หรือโซเชียลมีเดียทักมาขอยืมเงิน ก็ไม่ควรโอนเงินให้ในทันที เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า จะได้คืนหรือไม่ หากไม่ได้คืนแล้วจะไปตามทวงหรือแจ้งความอย่างไร เพราะไม่มีข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามเลยแม้แต่น้อย

   

    

3. ส่งลิงก์เว็บไซต์แปลกปลอมมาให้คลิก

   นอกจากมิจฉาชีพจะแฮ็ก Facebook เพื่อเข้าไปส่งข้อความขอยืมเงินกับคนรอบตัวแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่คนมักจะโดนกันไม่น้อยก็คือ ส่งลิงก์แปลกปลอมมาให้คลิกดูข้อมูล หรือวิดีโอ แต่เมื่อคลิกเข้าไปแล้ว กลับกลายเป็นการติดตั้งมัลแวร์ ที่ทำให้มิจฉาชีพสามารถดูดข้อมูลธนาคารของเราออกไปทั้งหมดได้

    

4. ชักชวนให้มาลงทุน

   เป็นข่าวใหญ่ที่พบเห็นกันได้มากมาย กับมิจฉาชีพที่มาหลอกให้ร่วมลงทุนในกองทุน หรือธุรกรรมอื่น ๆ โดยมิจฉาชีพเหล่านี้มักจะอ้างว่า “ลงทุนยังไงก็ได้กำไร ไม่เคยขาดทุนเลย” หรือ “มาลงทุนตรงนี้ ได้รับเงินยาว ๆ ได้กำไรเน้น ๆ เลยนะ ไม่มีขาดทุนแน่นอน ไม่สนใจหรอ”

   จะเห็นได้ว่า มิจฉาชีพจะหลอกล่อเราด้วยคำว่า “ไม่เคยขาดทุน” เพื่อให้เรารู้สึกสนใจ และอยากร่วมลงทุนด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การลงทุนมีความผันผวนสูงและขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ทำให้คำว่า “ไม่มีทางขาดทุน” แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มีแต่กำไรน้อย กำไรมากเท่านั้น เพราะฉะนั้น อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด! หรือหากบุคคลที่ทักมาดูมีความน่าเชื่อถือ ก็อย่าลืมเช็กประวัติและข้อมูลให้แน่ใจเสียก่อน

   

    

5. อ้างว่า มีของผิดกฎหมาย ต้องติดต่อกลับโดยด่วน

   ข้อนี้ถือเป็นกลลวงยอดฮิตที่โดนกันมาแล้วทุกคน เพราะในยุคนี้มีแอปฯสั่งซื้อสินค้าที่สะดวกสบายมาก ๆ จนทำให้ทุกคนแทบจะลืมการเดินเลือกซื้อของกันไปแล้ว และแน่นอนว่า เมื่อคนส่วนใหญ่หันมาสั่งสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น เหล่ามิจฉาชีพก็เห็นช่องทางในการหลอกลวงที่ดูมีความเป็นไปได้มากขึ้น

   โดยมิจฉาชีพเหล่านี้ จะโทรเข้ามาที่เบอร์โทรศัพท์ของเรา อ้างว่าเป็นบริษัทขนส่ง หรือศุลกากร และแจ้งว่าเรามีการสั่งซื้อสินค้าผิดกฎหมาย หากไม่ต้องการถูกดำเนินคดี จะต้องรีบติดต่อเข้าไปเพื่อยืนยันว่า ของเหล่านั้นไม่ใช่ของเรา จากนั้นก็จะให้เราพูดคุยกับคอลเซนเตอร์ เพื่อให้ข้อมูลส่วนตัวไป หากเราหลงเชื่อและให้ข้อมูลส่วนตัวไป มิจฉาชีพก็จะนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ในการดูดเงินออกจากบัญชีของเรา

   ดังนั้น หากคุณมั่นใจว่า คุณไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสิ่งของที่ผิดกฎหมาย ก็ไม่ต้องกังวลไป แต่ถ้าหากอยากเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ก็ควรจะโทรไปที่เบอร์ของกรมศุลกากร หรือบริษัทขนส่งโดยตรง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง

    

6. อ้างว่าเป็นธนาคาร และเสนอสินเชื่อให้

   ช่วงนี้มีใครได้รับข้อความ โดยอ้างว่าเป็นธนาคารที่มาเสนอสินเชื่อให้ไหมคะ? เชื่อว่ามุกนี้คงจะเป็นมุกที่โดนกันเป็นประจำ จนรู้ทันกันอยู่แล้วแน่ ๆ โดยมิจฉาชีพจะส่งข้อความมายังเบอร์โทรศัพท์ของเรา และอ้างตัวเองว่าเป็นธนาคารมาเสนอสินเชื่อให้กับเรา เมื่อคลิกลิงก์เข้าไป ก็จะกลายเป็นการติดตั้งมัลแวร์ที่ดูดข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลธนาคารของเราออกไปทั้งหมด

   เพราะฉะนั้น หากเจอข้อความแบบนี้ ให้จำไว้เลยว่า “ธนาคารไม่มีนโยบายในการเสนอสินเชื่อให้กับลูกค้าผ่านข้อความ” ไม่ว่าในขณะนั้นคุณจะเดือดร้อนเรื่องเงิน และข้อความนั้นจะเสนอเงินมากเท่าไหร่ ก็ขอให้คุณลบข้อความนั้นทิ้ง และเข้าไปติดต่อกับธนาคารเพื่อขอสินเชื่อด้วยตัวเองจะดีกว่า

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 6 มุกหลอกลวงเงินที่เหล่ามิจฉาชีพชอบใช้ ที่เรารวบรวมมาให้ เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจออย่างน้อย 1-2 มุกแน่นอน ซึ่งพิโกเข้าใจเป็นใจเป็นอย่างดีว่า ในปัจจุบันนี้ เหล่ามิจฉาชีพและคอลเซนเตอร์ต่างโทรหรือส่งข้อความมาก่อกวนเรากันอยู่แทบทุกวัน เพราะฉะนั้น การรู้ทันกลลวงเหล่านี้ จะช่วยให้เราไม่หลงกลจนสูญเสียเงินไปได้

สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน และต้องการเงินเพื่อมาหมุนเวียนใช้จ่ายจำเป็น ก็อย่าลืมนึกถึง Pico เงินด่วน เพราะเราได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ให้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ใบอนุญาตเลขที่ 273/2561 และพร้อมช่วยเหลือประชาชนให้หลุดพ้นจากปัญหาสภาพคล่องที่กำลังเจออยู่  หากสนใจขอสินเชื่อกับเรา หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เพียงแค่แอด Line: @picoth หรือ คลิกปุ่ม “สมัครเลย” และทำตามขั้นตอนที่กำหนด เท่านี้ คุณก็จะมีเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของคุณแล้ว

โดยในปัจจุบันมีผู้ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงินเกิดขึ้นมากมาย หลัก ๆ คือเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ประชาชน แต่ก็มีบางส่วนที่ตั้งมาเพื่อหลอกลวงประชาชนโดยเฉพาะ ดังนั้น ในวันนี้ Pico เงินด่วน จะมาบอกวิธีการดูว่า เงินด่วนได้จริง หรือผู้ให้บริการเงินด่วน ที่คุณเลือกนั้นถูกกฎหมาย หรือหลอกลวง เพื่อไม่คุณตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพและถูกหลอกลวงเอาเงินไปจนหมด จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

4 วิธีเช็ก เงินด่วนได้จริง ที่คุณเลือก ได้จริงตามที่บอกหรือหลอกลวง!

ไม่ว่าคุณจะเดือดร้อนเรื่องเงินขนาดไหน แต่การเช็กว่าผู้ให้บริการเงินด่วนที่คุณเลือกถูกกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะลองคิดดูสิว่า หากคุณเลือกผู้ให้บริการเงินด่วนที่ตั้งใจเข้ามาหลอกลวง จากที่คุณยังพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง กลับกลายเป็นหายไปจนหมดบัญชี จะทำให้คุณเกิดความเครียดหรือเป็นทุกข์มากขนาดไหน เพราะฉะนั้น หากคุณไม่อยากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ ก็ไปติดตามกันต่อเลยดีกว่าว่า 4 วิธีเช็กที่เรารวบรวมมามีอะไรบ้าง

• เงินด่วนได้จริง ต้องได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง

การขอสินเชื่อ หรือเงินด่วน ไม่ได้เป็นเพียงการเดินเข้าทำเรื่องขอสินเชื่อ แล้วจะได้เงินกลับมา แต่จะต้องมีการให้ข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของผู้ขอกู้อีกด้วย ดังนั้น เพื่อให้คุณมั่นใจว่า ข้อมูลสำคัญเหล่านี้จะไม่ถูกนำไปใช้อย่างผิดกฎหมาย คุณจึงควรเลือกผู้ให้บริการเงินด่วนที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังเท่านั้น 

เนื่องจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย มีการออกหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการควบคุมผู้ให้บริการเงินด่วน/สินเชื่ออย่างเข้มงวด ทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่า ข้อมูลเหล่านี้ปลอดภัย และถูกเก็บไว้เป็นความลับอย่างแน่นอน เพราะหากคุณเลือกผู้ให้บริการที่ไม่มีใบอนุญาต และถูกนำข้อมูลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย เช่น นำมาใช้ข่มขู่ กรรโชกทรัพย์ หรือนำไปใช้ในการปลอมแปลงเอกสาร เป็นต้น นอกจากจะทำให้คุณมีประวัติไม่ดีทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแล้ว ยังเสี่ยงต่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินอีกด้วย

• อัตราดอกเบี้ยต้องไม่เกินที่กฎหมายกำหนด

ดอกเบี้ย ถือเป็นสิ่งที่มาคู่กับการขอสินเชื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยอัตราดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินจากที่กฎหมายกำหนดคือ 36% ต่อปี หรือ 3% ต่อเดือน หากมีการกำหนดดอกเบี้ยเกินจากนั้น ให้คุณคิดไว้เลยว่า เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อผิดกฎหมายอย่างแน่นอน

ซึ่งการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเกินสูงกว่ากฎหมายกำหนด ไม่เพียงแต่จะผิดกฎหมาย แต่ยังส่งผลเสียต่อผู้กู้อีกด้วย เพราะเมื่อมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูง นั่นหมายความว่า เงินที่คุณจ่ายไปทุกเดือน คือค่าดอกเบี้ย ไม่ใช่การจ่ายเงินต้น ทำให้เกิดหนี้ซ้ำซ้อนอย่างไม่จบไม่สิ้น

• ต้องมีการบอกอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และค่าปรับอย่างละเอียด

โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ให้บริการเงินด่วนถูกกฎหมาย มักจะไม่ได้มีสาขาให้บริการ แต่จะมีเว็บไซต์ หรือเพจที่มีช่องทางติดต่อได้อย่างสะดวก และมีการระบุรายละเอียดที่ชัดเจนให้ผู้กู้ได้นำมาเปรียบเทียบ หรือพิจารณาแทน โดยจะต้องมีข้อมูลดังนี้

• มีข้อมูลอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจน และจะต้องไม่เกินจากที่กฎหมายกำหนด
• มีการระบุค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และเงื่อนไขต่าง ๆ ไว้อย่างครบถ้วน
• มีรายละเอียดและเงื่อนไขของผลิตภัณฑ์ เช่น จำนวนวงเงิน ระยะเวลาในการผ่อนชำระคืน เป็นต้น

• ไม่มีการเก็บค่าดำเนินการก่อนทำสัญญา

หากผู้ให้บริการเงินด่วนที่คุณเลือก แจ้งว่าให้คุณจ่ายค่าดำเนินการก่อนทำสัญญา ให้ตัดสินไปได้เลยว่า คุณกำลังถูกหลอกเอาเงินไป และจะไม่ได้เงินใด ๆ กลับมาอย่างแน่นอน เพราะเราสามารถเห็นข่าวกันได้บ่อยครั้งว่า “ถูกหลอกให้โอนเงินค่าดำเนินการไปจำนวนมาก แต่เมื่อโอนไปแล้ว ผู้ให้บริการเงินด่วนกลับเงียบหายไป ไม่สามารถติดต่อได้ และเชิดเงินส่วนนั้นไปเลย” ซึ่งผู้ให้บริการเงินด่วนถูกกฎหมาย จะไม่มีนโยบายให้จ่ายค่าดำเนินการก่อนทำสัญญา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้แก่ผู้กู้

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 4 วิธีเช็ก เงินด่วนได้จริง ที่ Pico เงินด่วนรวบรวมมาให้ เชื่อว่าคงจะทำให้คนที่กำลังมองหาผู้ให้บริการเงินด่วน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อ ได้ข้อมูลในการตรวจสอบกันบ้างแล้ว ทั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการสินเชื่อแบบ Non-Bank ก็อย่าลืมนึกถึง Pico เงินด่วน

ซึ่ง Pico เงินด่วน เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อ Non-Bank ที่ได้รับการสนับสนุน และได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ใบอนุญาตเลขที่ 273/2561 ให้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่องที่เกิดจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เพียง 2.99% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก พร้อมให้วงเงินสูงสุดถึง 50,000 บาท ไม่ว่าจะอาชีพไหนก็สามารถขอสินเชื่อกับเราได้ เพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อม และติดต่อเรามาที่ Line: @picoth หรือ คลิกปุ่ม “สมัครเลย” ที่หน้าเว็บไซต์ และทำตามขั้นตอนให้ครบถ้วน

พารู้จักกฎหมายทวงหนี้ ที่ลูกหนี้ควรรู้ไว้!

พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 เป็นพระราชบัญญัติที่ออกมาเพื่อควบคุมการทวงถามหนี้ที่ไม่เหมาะสมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ้อยคำที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างรุนแรง การคุกคาม การใช้กำลังทำร้ายร่างกาย การทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง รวมถึงการให้ข้อมูลเท็จ ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่บุคคลอื่น โดยมีข้อสรุปของพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ ดังนี้

• ห้ามทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกหนี้ และห้ามเปิดเผยข้อมูลการเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้ผู้อื่นทราบ เว้นแต่จะเป็นบุคคลที่ลูกหนี้ระบุไว้ เช่น ผู้ค้ำประกัน 
• การติดต่อกับบุคคลอื่น ทำได้เพื่อสอบถามสถานที่ติดต่อลูกหนี้เท่านั้น โดยผู้ทวงถามหนี้จะต้องแจ้งชื่อ-นามสกุล ชื่อหน่วยงานของตนและของเจ้าหนี้ รวมถึงจำนวนหนี้ 
• หากเป็นการมอบอำนาจให้ทวงถามหนี้แทน ผู้ทวงถามหนี้จะต้องมีใบรับมอบอำนาจ และต้องแจ้งชื่อ-สกุล ชื่อหน่วยงานของตนและเจ้าหนี้ รวมถึงจำนวนหนี้
• ทวงหนี้และขอรับชำระหนี้ด้วย ต้องแสดงหลักฐานการรับมอบอำนาจให้รับชำระหนี้ และเมื่อลูกหนี้ชำระหนี้ไปแล้ว จะต้องออกหลักฐานให้ด้วย
• ให้ติดต่อกับลูกหนี้ตามสถานที่ที่ระบุไว้ และต้องติดต่อภายในเวลาที่กำหนดคือ ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 – 20.00 น. และวันหยุดราชการ เวลา 08.00 – 18.00 น. และต้องติดต่อในจำนวนครั้งที่เหมาะสม
• ห้ามทวงหนี้ในลักษณะที่เป็นเท็จหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด เช่น การใช้เครื่องหมาย เครื่องแบบ หรือข้อความที่ทำให้เชื่อว่าถูกทวงหนี้จากทนายความ สำนักงานกฎหมาย โดยมีข้อความทำให้เชื่อว่า จะถูกดำเนินคดี หรืออายัดทรัพย์ 
• ห้ามข่มขู่ ดูหมิ่น ใช้ความรุนแรง ที่เป็นการดูหมิ่นลูกหนี้และบุคคลอื่น หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกาย จิตใจ ชื่อเสียง และทรัพย์สิน
• ห้ามทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม เช่นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายที่เกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนด รวมถึงชักจูงให้ลูกหนี้ออกเช็คทั้งที่รู้อยู่ว่าลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้
• เจ้าหน้าที่รัฐห้ามเป็นผู้ทวงถามหนี้ หรือสนับสนุนการทวงถามหนี้ เว้นแต่เป็นการทวงถามหนี้ของตน สามี ภรรยา บุพการี และผู้สืบสันดาน

โดยหากถูกทวงหนี้อย่างไม่เป็นธรรม หรือขัดต่อพระราชบัญญัตินี้ ลูกหนี้สามารถร้องเรียนที่หน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้

1. กรมการปกครอง โทร 02-356-9660
2. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 1359
3. ที่ทำการปกครองจังหวัด
4. กองบัญชาการตำรวจนครบาล โทร 02-654-5249
5. สถานีตำรวจ
6. ที่ว่าการอำเภอ

ไม่อยากกังวลว่าจะโดนทวงหนี้โหด ต้องมากู้กับพิโกเงินด่วน!

แม้ว่าในปัจจุบัน จะมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้แล้ว แต่เราก็ยังสามารถเห็นข่าวการทวงหนี้โหด หรือข่าวที่ลูกหนี้มาขอความช่วยเหลือเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูงเกินจนชำระไม่ไหว ดังนั้น การมาขอกู้เงินกับผู้บริการสินเชื่อหรือเงินด่วนที่ถูกกฎหมาย จะทำให้คุณวางใจได้ว่า จะได้รับอัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด และไม่ถูกตามหนี้โหด

โดย Pico เงินด่วน เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อแบบ Non-Bank ที่ได้รับใบอนุญาต และการสนับสนุนจากกระทรวงการคลัง ให้เข้ามาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องเงิน โดยเรากำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เพียว 2.99% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก นอกจากนี้ เรายังไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ รวมถึงค่าปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้อีกด้วย

ยืมเงินกับ Pico เงินด่วน ดียังไง?

• ให้วงเงินสูงสุด 50,000 บาท
• อัตราดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด เพียง 2.99% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก
• ผ่อนชำระสูงสุดนาน 24 เดือน   
• ไม่มีค่าธรรมเนียม และค่าปรับ
• ไม่ต้องค้ำประกัน
• อนุมัติผลไว ภายใน 3 วัน

ได้ทราบกฎหมายทวงหนี้กันไปแล้ว เชื่อว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ตัดสินใจกู้เงินได้อย่างแน่นอน แต่ทางที่ดี เพื่อไม่ให้คุณต้องกังวลกับความปลอดของตัวเอง และบุคคลรอบข้าง การเลือกไปกู้เงินกับผู้ให้บริการสินเชื่อในระบบ จะช่วยเพิ่มความสบายใจให้คุณได้มากกว่า

สุดท้ายนี้ หากต้องการใช้เงินอย่างเร่งด่วน แต่ขอสินเชื่อกับธนาคารยังไงก็ไม่ผ่าน ก็สามารถเข้ามาขอยืมเงินกับ Pico เงินด่วน ได้ เพียงแค่แอด Line: @picoth หรือ คลิกปุ่ม “สมัครเลย” ที่หน้าเว็บไซต์ และทำตามขั้นตอนให้ครบถ้วน โดย Pico เงินด่วน ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ใบอนุญาตเลขที่ 273/2561 ทำให้สามารถมั่นใจได้เลยว่า เราเป็นผู้ให้บริการเงินด่วนที่ถูกกฎหมายอย่างแน่นอน

พิโกพารู้จัก “ดอกเบี้ยคงที่” และ “ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก”

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า เมื่อเราตัดสินใจขอ “สินเชื่อ” ก็จะมีสิ่งที่เรียกว่า “ดอกเบี้ย” ตามมาเสมอ ดังนั้น การรู้จักดอกเบี้ยแต่ละประเภท จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้กู้จะต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ หรือกู้เงิน โดยในวันนี้ พิโกจะพาคุณมาทำความรู้จักกับดอกเบี้ย 2 ประเภทคือ ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) และดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) จะมีอะไรบ้าง และจะแตกต่างกันอย่างไร ไปดูกันต่อเลย

ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate)

ดอกเบี้ยคงที่ หรือ Flat Rate คืออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคาร หรือผู้ปล่อยสินเชื่อกำหนดไว้ตายตัว และจะไม่มีการปรับตลอดการทำสัญญา ซึ่งจะคำนวณจาก จำนวนเงินต้นที่ขอสินเชื่อ และนำมาหารกับจำนวนงวดที่ต้องจ่าย โดยจะคงอัตราดอกเบี้ยนั้น ๆ ไว้จนกว่าผู้กู้จะจ่ายครบตามสัญญากู้ที่ตกลงไว้

“สูตรคำนวณดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด = เงินต้นคงเหลือ X อัตราดอกเบี้ยดอกปี X ระยะเวลา(ปี)”

ข้อดีของดอกเบี้ยคงที่ = จำนวนที่ต้องชำระจะเท่ากันทุกงวด ทำให้ผู้กู้สามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างแม่นยำ

ข้อเสียของดอกเบี้ยคงที่ = ในกรณีที่ดอกเบี้ยมีการปรับตัวลง อัตราดอกเบี้ยที่ผู้กู้จะต้องชำระ จะไม่ลดลงตามไปด้วย

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate)

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก หรือ Effective Rate คืออัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเรื่อย ๆ ตามจำนวนเงินต้นที่ลดลง โดยจะเป็นการหักออกไปจากการชำระหนี้งวดก่อนหน้า

“สูตรคำนวณดอกเบี้ยที่ต้องชำระในงวดนั้น ๆ  = เงินต้นคงเหลือ X อัตราดอกเบี้ยดอกปี X จำนวนวันในงวด (365/366 วัน)”

ข้อดีของดอกเบี้ยลดต้นลดดอก = จ่ายเงินต้นมากเท่าไหร่ อัตราดอกเบี้ยก็จะลดลงมากเท่านั้น

ข้อเสียของดอกเบี้ยลดต้นลดดอก = เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลงทุกงวด อาจทำให้ผู้กู้ไม่สามารถวางแผนทางการเงินที่ชัดเจนได้

เลือกดอกเบี้ยประเภทไหน คุ้มค่ากว่ากัน?

อันดับต่อไป เราจะพาคุณมาดูกันว่า เลือกดอกเบี้ยประเภทไหนถึงจะคุ้มค่ากว่ากัน ซึ่งความคุ้มค่าในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงจำนวนเงินที่ต้องจ่าย แต่หมายถึง ระยะเวลาการปลดหนี้ โดยหากคุณไม่อยากผ่อนชำระนาน ๆ และมีเงินก้อนมาปิดบัญชี ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกก็จะตอบโจทย์มากกว่า

แต่หากคุณไม่ได้เร่งที่จะปิดหนี้ หรือมีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ไปเรื่อย ๆ ดอกเบี้ยคงที่ก็จะตอบโจทย์กับคนกลุ่มนี้ แต่หากคุณมีเงินก้อนที่จะมาปิดหนี้ส่วนนี้ ก็จะต้องเสียดอกเบี้ยประมาณ 50 % อยู่ดี ดังนั้นคุณจึงควรพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ ควบคู่ไปกับระยะเวลาการปลดหนี้ที่ต้องการก่อนตัดสินใจเลือกประเภทดอกเบี้ย

ได้ทำความรู้จักกับดอกเบี้ยคงที่ และดอกเบี้ยลดต้นลดดอก รวมถึงความคุ้มค่าของการเลือกดอกเบี้ยแต่ละประเภทที่พิโกรวบรวมมาให้กันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะมีข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจกันได้บ้าง แต่ที่สำคัญคือ คุณควรจะสอบถามเงื่อนไข หรือข้อมูลเพิ่มเติมกับสถาบันทางการเงินที่คุณเลือกก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยเรื่องเงิน ที่อนุมัติง่าย แถมให้ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ก็อย่าลืมนึกถึง Pico เงินด่วน ผู้ให้บริการเงินด่วนถูกกฎหมายที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ใบอนุญาตเลขที่ 273/2561 เพราะเราพร้อมให้บริการสินเชื่อกับผู้ที่เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอะไร ขอแค่คุณเตรียมเอกสารให้พร้อม และเข้ามาขอสินเชื่อกับเรา เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีเงินไปหมุน และใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของคุณแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจขอสินเชื่อกับเรา เพียงแอด Line: @picoth และทำตามขั้นตอนให้ครบถ้วน

แม้ว่าการกู้นอกระบบจะดูเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุดในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ผู้กู้จะต้องเตรียมรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก จนแทบจะเป็นการจ่ายดอกเบี้ยแทนเงินต้นเลยก็ว่าได้ อีกสิ่งที่ต้องเตรียมรับมือก็คือ การทวงหนี้โหด ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของตัวผู้กู้เอง วันนี้ Pico Finance by Pico เงินด่วน จึงขอมาแนะนำข้อมูลดี ๆ ให้คุณได้รู้ ก่อนตัดสินใจไปกู้เงินนอกระบบ เพราะปัญหาเรื่องเงิน มีทางออกที่ดีกว่า และปลอดภัยกว่า

Pico Finance by Pico เงินด่วน VS เงินกู้นอกระบบ

อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า การกู้เงินนอกระบบ ไม่ใช่ทางออกของปัญหาเรื่องเงินที่ดีเลยสักนิด เพราะนอกจากจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดแล้ว ยังมีการทวงหนี้โหดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินอีกด้วย ซึ่งทางรัฐบาลก็ได้เล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ จึงได้มีการพยายามหาทางช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้หมดไป ผ่านการสนับสนุนเหล่าผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) มากขึ้น

สำหรับผู้ที่ยังมองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างการกู้เงินกับผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และการกู้นอกระบบ Pico เงินด่วน จะมาเปรียบเทียบให้คุณเห็นภาพ และเข้าใจแบบง่าย ๆ กัน

Pico Finance by Pico เงินด่วน

การสมัครขอสินเชื่อ: สมัครออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็สมัครได้ เพียงแอด Line: @picoth

เครดิตวงเงิน: ให้วงเงินสูงสุดถึง 50,000 บาท

อัตราดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยเพียง 2.99% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก

ค่าธรรมเนียม และค่าปรับ: ไม่มีค่าธรรมเนียมในการจัดทำเอกสาร ค่าปรับการปิดวงเงินก่อนอายุสัญญา ค่าปรับชำระหนี้ล่าช้า และค่าติดตามทวงถามหนี้

การชำระหนี้: มีข้อความอัตโนมัติแจ้งรายละเอียดการชำระเงินที่ชัดเจนทุกวันที่ 25 ของเดือนผ่าน Line 

ความปลอดภัย: Pico เงินด่วน ให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของลูกค้าทุกท่าน และดำเนินการติดตามชำระหนี้ตามมาตรการที่กฎหมายกำหนด

เงินกู้นอกระบบ

การสมัครขอสินเชื่อ: ผ่านไลน์หรือข้อความส่วนตัว 

เครดิตวงเงิน: แล้วแต่เจ้าหนี้จะพิจารณาให้ (โดยส่วนใหญ่จะให้วงเงินสูง)

อัตราดอกเบี้ย: ขั้นต่ำ 10% ต่อเดือน และสูงสุดได้ถึง 30% ต่อเดือน

ค่าธรรมเนียม และค่าปรับ: ต้องชำระค่าธรรมเนียมตั้งแต่ตอนสมัคร และมักจะไม่มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมที่ผู้กู้ต้องจ่าย บางรายอาจให้จ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราสูง เมื่อได้เงินแล้วก็เงียบหายไป

การชำระหนี้: ชำระกับเจ้าหนี้โดยตรง และมักจะไม่มีการแจ้งรายละเอียดการชำระเงินที่ชัดเจน บางครั้งผู้กู้อาจจะต้องคำนวน หรือเช็กยอดด้วยตัวเอง ว่าถูกต้องหรือไม่

ความปลอดภัย: อาจมีการติดต่อไปยังบุคคลรอบตัว เพื่อน หรือที่ทำงาน เพื่อสอบถามถึงการชำระหนี้ หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ อาจมีการทำร้ายร่างกาย และทำลาย/ยึดทรัพย์สิน

กู้ในระบบกับ Pico Finance by Pico เงินด่วน มั่นใจ ปลอดภัยกว่า

แม้ว่าการกู้เงินนอกระบบ จะมีขั้นตอนการขอสินเชื่อที่สะดวกสบาย และรวดเร็วกว่า แต่หากเทียบกับความปลอดภัยที่หายไปก็คงจะไม่คุ้มค่าสักเท่าไหร่ ดังนั้น การกู้เงินในระบบ ไม่ว่าจะกับธนาคาร หรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและปลอดภัย ก็ยังดีกว่าอยู่ดี 

ซึ่ง Pico Finance by Pico เงินด่วน เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่ได้รับการรับรอง ถูกกำกับ และสนับสนุนจากกระทรวงการคลัง ให้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เพียง 2.99% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าปรับต่าง ๆ ทำให้ผู้กู้สามารถนำเงินไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตามหนี้โหด

นอกจากนี้ เรายังพร้อมมอบความสะดวกสบายในการขอสินเชื่อให้แก่ผู้กู้ทุกท่าน โดยมีการกำหนดช่องทางการขอสินเชื่อออนไลน์ เพื่อให้ผู้กูสามารถขอสินเชื่อที่ใดก็ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขั้นตอนการขอสินเชื่อที่ง่ายดายใน 5 ขั้นตอน ดังนี้

1. แอดไลน์ Line: @picoth หรือคลิกปุ่ม “สมัครเลย”
2. กรอกข้อมูล และใส่เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ให้ถูกต้องและครบถ้วน
3. หากผ่านเกณฑ์ในเบื้องต้น จะได้รับลิงก์แบบฟอร์มเอกสาร
4. กรอกเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง จากนั้นส่งเอกสารตัวจริงมาที่ บริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด 199/9 ซอยสุขุมวิท16 (สามมิตร) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 
5. รออนุมัติภายใน 3 วัน

Pico เงินด่วน พร้อมอยู่เคียงข้าง และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ประสบปัญหาด้านการเงินทุกท่าน หากคุณกำลังตัดสินใจขอสินเชื่อเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายจำเป็น ก็อย่าลืมนึกถึง Pico เงินด่วน แต่หากคุณหลงไปกู้นอกระบบ และต้องการออกจากวงจรนี้ ก็สามารถติดต่อเราเพื่อขอความช่วยเหลือได้ที่ 02-096-8719 กด 2 เพื่อขอคำแนะนำทางการเงิน 

สุดท้ายนี้ Pico เงินด่วน พร้อมให้บริการผู้ขอสินเชื่อทุกท่าน เพราะเราอยากให้คุณหลุดพ้นจากปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และสามารถดำเนินชีวิตอย่างที่ต้องการได้ สำหรับผู้ที่สนใจขอสินเชื่อกับเรา หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อ สามารถติดต่อได้ที่ Line: @picoth หรือ คลิกปุ่ม “สมัครเลย” จากนั้ทำตามขั้นตอนให้ครบถ้วนและถูกต้อง

เช็กคุณสมบัติให้พร้อม ก่อนขอสินเชื่อกับพิโกโซลูชั่นส์ 

บริษัท พิโกโซลูชั่นส์ จำกัด หรือ Pico เงินด่วน เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงิน (Non-Bank) ที่พร้อมให้บริการแก่บุคคลที่ทำงานประจำ และฟรีแลนซ์ ซึ่งเราเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน และให้วงเงินสูงสุดถึง 50,000 บาท เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ที่มาขอสินเชื่อกับเรา โดยคุณสมบัติของผู้ที่มาขอสินเชื่อกับเรา มีดังนี้

พนักงานประจำ

• มีรายได้ 12,000 บาทขึ้นไป เข้าบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ
• มีสลิป หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
• สถานะสินเชื่อปัจจุบันไม่ค้างจ่าย (เคยค้างแต่จ่ายแล้ว ก็ขอสินเชื่อได้)
• มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

อาชีพอิสระ

• มีรายได้ 12,000 บาทขึ้นไป เข้าบัญชีธนาคารสม่ำเสมอ
• มีหลักฐานแสดงแหล่งที่มาของรายได้จากอาชีพอิสระที่ชัดเจน
• อายุเครดิตบูโร 3 เดือนขึ้นไป จะพิจารณาเป็นพิเศษ
• มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอสินเชื่อพิโก

• สำเนาบัตรประชาชน 2 ฉบับ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
• สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
• หน้าสมุดบัญชีธนาคาร 1 ฉบับ
• สลิปหรือหนังสือรับรองเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน 
• รายการเดินบัญชีเงินเดือน (Statement ธนาคาร) ย้อนหลัง 3 เดือน
• เอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้ (สำหรับผู้ที่ทำ Freelance)

อยากสมัครสินเชื่อกับพิโกโซลูชั่นส์ มีขั้นตอนอะไรบ้าง?

สมัครสินเชื่อส่วนบุคคลกับพิโกโซลูชั่นส์ ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ 5 ขั้นตอน และรออนุมัติผลภายใน 3 วัน ก็ได้รับเงินเข้าบัญชีไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แล้ว

1. แอดไลน์ Line: @picoth หรือคลิกปุ่ม “สมัครเลย”
2. กรอกข้อมูล และใส่เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ให้ถูกต้องและครบถ้วน
3. หากผ่านเกณฑ์ในเบื้องต้น จะได้รับลิงก์แบบฟอร์มเอกสาร
4. กรอกเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง จากนั้นส่งเอกสารตัวจริงมาที่ บริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด 199/9 ซอยสุขุมวิท16 (สามมิตร) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 
5. รออนุมัติภายใน 3 วัน

ขอสินเชื่อกับพิโกโซลูชั่นส์ดียังไง?

1. อาชีพไหนก็ขอสินเชื่อกับเราได้: ไม่ว่าคุณจะเป็น Freelance, ขับรถส่งอาหาร, เปิดร้านค้าออนไลน์ หรือทำงานประจำ ก็สามารถขอสินเชื่อได้
2. ให้วงเงินสูง: Pico เงินด่วน ให้วงเงินสูงสุดถึง 50,000 บาท โดยผู้ขอสินเชื่อ สามารถกำหนดวงเงินที่ต้องการมาให้เราช่วยประเมินก่อนได้
3. ดอกเบี้ยสบาย: ให้ดอกเบี้ย 2.99% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก 
4. ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
5. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าปรับ: เพราะเราต้องการช่วยเหลืออย่างแท้จริง เราจึงกำหนดไม่ให้มีค่าธรรมเนียม และค่าปรับใด ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดทำเอกสาร ค่าปรับการชำระหนี้ล่าช้า ค่าติดตามทวงหนี้ เป็นต้น 

ได้ทราบทั้งคุณสมบัติ เอกสารที่ต้องเตรียม และขั้นตอนการสินเชื่อกับพิโกโซลูชั่นส์กันไปแล้ว เชื่อว่าคนที่อยากขอสินเชื่อกับเรา น่าจะสามารถเตรียมตัวให้พร้อมก่อนยื่นขอสินเชื่อพิโกกับเราได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่สนใจขอสินเชื่อกับเรา เพียงแค่แอด Line: @picoth หรือคลิกปุ่ม “สมัครเลย” แล้วทำตามขั้นตอนที่กล่าวไปด้านบนให้ครบถ้วนและถูกต้อง ก็สามารถขอสินเชื่อได้แล้ว

โดยในวันนี้ Pico เงินด่วน จะพาคุณมาทำความรู้จักกับคำว่า “เครดิตบูโร” รวมถึงวิธีการล้างประวัติเครดิตบูโรไม่ดี ให้ออกมาดีที่สุดได้ ใครที่ยังไม่เคยรู้จักคำว่า เครดิตบูโร หรือกำลังมีประวัติเครดิตบูโรไม่ดีอยู่ ต้องไปดู!

ทำความรู้จัก เครดิตบูโร สำคัญยังไง ทำไมมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ

เครดิตบูโร คือ ข้อมูลที่สะท้อนถึงพฤติกรรม ความน่าเชื่อถือ และวินัยทางการเงินของเจ้าของข้อมูลที่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เป็นผู้รวบรวมไว้ โดยจะแสดงถึงความตั้งใจในการชำระหนี้ของเจ้าของข้อมูล โดยสถาบันการเงินจะนำเครดิตบูโรนี้ มาใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อร่วมกับข้อมูลอื่น ๆ 

ซึ่งผู้ที่มีประวัติเครดิตบูโรที่ดี ก็จะมีโอกาสที่ทางสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายกว่า รวมถึงยังมีโอกาสได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ เนื่องจากมีประวัติการชำระเงินดีได้อีกด้วย

ประวัติเครดิตบูโร จะติดอยู่กับเรากี่ปี ถึงจะหมด

สำหรับผู้ที่ผิดชำระหนี้ หรือค้างชำระเกิน 90 วัน ทางสถาบันการเงินจะส่งข้อมูลสินเชื่อให้กับบริษัทข้อมูลเครดิตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ค้างชำระเกิน 90 วัน โดยบริษัทข้อมูลเครดิตจะเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ในฐานข้อมูลต่อไปอีกไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ได้รับข้อมูลจากสถาบันการเงิน 

แต่หากคุณเป็นคนที่ชำระหนี้ตรงเวลา ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสถาบันการเงินจะนำส่งข้อมูลเป็นรายเดือน จนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น เมื่อชำระครบแล้ว สถาบันการเงินจะนำส่งข้อมูลปิดบัญชีไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตในเดือนถัดไป และจะปรากฎเป็นสถานะ ปิดบัญชี

โดยข้อมูลที่สถาบันการเงินจะส่งให้กับบริษัทข้อมูลเครดิต แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

1. ข้อมูลบ่งชี้ ที่แสดงถึงตัวตนของเจ้าของข้อมูลที่เราเป็นผู้แจ้งกับสถาบันการเงิน เช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด สถานภาพ อาชีพ เลขบัตรประชาชน เป็นต้น
2. ข้อมูลสินเชื่อ คือ ข้อมูลการอนุมัติ และประวัติการชำระหนี้ เช่น เคยขอสินเชื่ออะไรมาบ้าง วงเงินที่ได้รับ สถานะบัญชี รายละเอียดการชำระหนี้ว่ามีค้างชำระหรือไม่

อยากแก้ประวัติเครดิตบูโรไม่ดี แค่ทำตาม 4 ข้อนี้ ขอสินเชื่อพิโกได้ ชัวร์!

1. ตรวจสอบเครดิตบูโรของตนเอง
   รู้หรือไม่ว่า คุณสามารถทำการขอเช็กเครดิตบูโร เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ เพราะในบางครั้ง อาจมีข้อผิดพลาดในรายงานเครดิตบูโร ที่ส่งผลต่อเครดิตของคุณโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น คุณจึงควรยื่นเรื่องขอรายงานจากเครดิตบูโรจาก บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ปีละครั้ง เพื่อตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวเอง โดยสิ่งที่ควรตรวจสอบ มีดังนี้
   – ตรวจสอบว่ามีหนี้ที่ไม่เคยทำรายการใด ๆ ไว้เกิดขึ้นมาหรือไม่
   – ตรวจสอบรายการค้างชำระ
   – หากเคยมีหนี้อยู่ และชำระจนหมดแล้ว ต้องตรวจสอบว่าขึ้นสถานะ ปิดบัญชี แล้วหรือยัง
   – ตรวจสอบข้อมูลบุคคลให้ถูกต้อง เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เป็นต้น

2. แก้ไขเครดิตบูโรที่ผิดพลาด
   ในกรณีที่ตรวจเช็กข้อมูลแล้วเจอข้อผิดพลาด หรือมีสิ่งที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง คุณควรจะรีบดำเนินการเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดเหล่านั้นในทันที เพื่อไม่ให้มีประวัติเสียค้างอยู่ในรายงานเครดิตของคุณ โดยขั้นตอนในการยื่นตรวจสอบ และแก้ไขข้อมูลเครดิตบูโรนั้น สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่กรอกแบบฟอร์ม “คำขอใช้สิทธิ์ตรวจสอบ/แก้ไขข้อมูลเครดิต” และแนบเอกสาร/หลักฐานทางการเงินที่คุณมี ส่งไปที่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เพื่อให้บริษัททำการตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลภายใน 30 วัน 
3. วางแผนการชำระหนี้
   หากคุณเป็นหนี้เยอะ จนทำให้ประวัติเครดิตบูโรของคุณดูไม่ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือ การวางแผนการเงินเพื่อชำระหนี้ โดยคุณสามารถวางแผนการชำระหนี้ให้หมดไวที่สุด หากคุณมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง ก็อาจจะแบ่งมาเพื่อปิดหนี้ในส่วนนี้ก่อน เพราะหากค้างชำระสะสมกันไป อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะสูงไปด้วย 
4. ขอความช่วยเหลือจากธนาคารหากคุณไม่สามารถวางแผนการชำระหนี้ที่มีอยู่ได้ด้วยตัวเอง การเข้าไปขอคำปรึกษา หรือสอบถามมาตรการช่วยเหลือจากธนาคาร เช่น รีไฟแนนซ์ ปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น จะช่วยทำให้คุณเห็นแนวทางในการจัดการ หรือสามารถวางแผนจัดการหนี้ได้ดีและจริงจังมากขึ้น 

สุดท้ายนี้ Pico เงินด่วนเชื่อว่า หากคุณมีวินัยทางการเงินที่ดี ไม่สร้างหนี้ และชำระหนี้อย่างตรงเวลา ข้อมูลเครดิตบูโรของคุณก็จะดูดี และเมื่อไปขอสินเชื่อพิโกจากสถาบันการเงิน ก็จะมีโอกาสอนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น

และหากคุณเคยมีประวัติเครดิตบูโรไม่ดี หรือกำลังแก้ไขอยู่ แล้วอยากขอสินเชื่อ Pico เงินด่วน ก็พร้อมที่จะให้บริการคุณ เพราะเราเป็นผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ที่เข้าใจและพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเรื่องเงินอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสินเชื่อพิโก เพียงแค่แอด Line:@ picoth หรือกดปุ่ม “สมัครเลย” แล้วทำตามขั้นตอน ก็สามารถสมัครสินเชื่อพิโกได้แล้ว

เพราะในปัจจุบันมีผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงิน (Non-Bank) ถูกกฎหมาย ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินเกิดขึ้นมากมาย เช่นเดียวกับ Pico เงินด่วน ที่ให้บริการสินเชื่อไฟแนนซ์ สินเชื่อที่ตอบโจทย์สำหรับบุคลลที่เป็นพนักงานประจำ และพนักงานอิสระเป็นอย่างมาก แล้วจะต้องเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่ออย่างไร ให้ผ่านฉลุย ไปดูกันเลย

3 สิ่งที่ต้องเตรียม ถ้าอยากขอสินเชื่อพิโกผ่านฉลุย

สำหรับคนที่เป็น Freelance หรือต้องการเริ่มต้นการเป็นพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “เงินทุน” ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ได้มีเงินทุนสำรองไว้อยู่แล้ว หรืออาจไม่ต้องการนำเงินเก็บส่วนตัวมาใช้ลงทุนกับธุรกิจนี้ ทำให้การขอสินเชื่อ กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด 

แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ธนาคารส่วนใหญ่ มักจะไม่ค่อยอนุมัติสินเชื่อให้กับคนที่ประกอบอาชีพอิสระเท่าไหร่นัก แต่หากมีการเตรียมตัวให้พร้อม ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อให้มากขึ้นได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น อย่างเพิ่งหมดหวัง ไปเตรียมตัวให้พร้อม แล้วขอสินเชื่อกันเถอะ!

1. หมั่นเดินบัญชีสม่ำเสมอ
   การหมั่นเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สถาบันการเงินเห็นว่า คุณมีรายได้หมุนเวียน และบ่งบอกว่าคุณมีความสามารถในการบริหารและจัดการเงิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อให้มากขึ้นได้ โดยคุณควรจะมีการเดินบัญชีเป็นประจำต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง
2. แนบสัญญาจ้าง หรือแผนธุรกิจให้สถาบันการเงินดู
   ในกรณีที่คุณเป็นฟรีแลนซ์ และได้รับงานที่มีสัญญาจ้างระยะยาว การนำสัญญาจ้างนี้แนบควบคู่ไปด้วย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อให้มากขึ้นได้ เพราะสถาบันการเงินจะเห็นว่า เรามีการรับงาน และมีรายได้จากการรับงานจริง
   ในส่วนของพ่อค้า-แม่ค้าที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ ก็สามารถนำแผนธุรกิจที่คุณเตรียมไว้ไปให้สถาบันทางการเงินดูเพื่อพิจารณาได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้สถาบันทางการเงินเห็นว่า คุณกำลังต้องการเริ่มทำ และจริงจังกับการทำธุรกิจนี้จริง ๆ
3. ใช้หลักประกันเข้าช่วย
   การใช้หลักประกัน ไม่ว่าจะเป็นวิธีกู้ร่วม หาคนค้ำประกัน หรือใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวคุณได้มากขึ้น เพราะสถาบันการเงินที่คุณไปขอสินเชื่อจะสามารถมั่นใจได้ว่า หากคุณไม่สามารถหรือเบี้ยวชำระหนี้ จะมีหลักประกันเหล่านี้ช่วยชำระหนี้แทน
4. แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวิธีนี้จะสามารถการันตีการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินได้ เพราะบางแห่งอาจจะมองว่า คุณยังไม่มีความพร้อมด้านการบริหาร และจัดการเงิน หรือมีสภาพทางการเงินไม่มั่นคงพอ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละสถาบันการเงินด้วยเช่นกัน

จะเป็น Freelance หรือขายสินค้าออนไลน์ ก็ขอสินเชื่อกับ Pico เงินด่วนได้ 

คุณสมบัติในการยื่นขอสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์กับ Pico เงินด่วน

1. มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2. พนักงานประจำ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ต้องมีรายได้เข้าบัญชีธนาคารสม่ำเสมอ 12,000 บาท/เดือน
3. สถานะสินเชื่อปัจจุบันไม่ค้างจ่าย หรือเคยค้างจ่ายแต่ชำระแล้ว

เอกสารที่ต้องเตรียมในการยื่นขอสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์กับ Pico เงินด่วน

1. สำเนาบัตรประชาชน 2 ฉบับ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
2. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
3. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากหน้าแรก ที่ระบุชื่อ และเลขที่บัญชีของผู้ขอสินเชื่อ 1 ฉบับ
4. สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน
5. รายการเดินบัญชีเงินเดือน (Statement ธนาคาร) ย้อนหลัง 3 เดือน

ได้ทราบถึงวิธีเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อสำหรับคนที่ประกอบอาชีพอิสระ, Freelance หรือพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์กันไปแล้ว ก็อย่าลืมรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย รับรองว่า สินเชื่อของคุณจะได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน

สุดท้ายนี้ Pico เงินด่วน เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แบบถูกกฎหมาย ที่ไม่ได้ให้บริการแค่ผู้ประกอบอาชีพอิสระ, Freelance หรือพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ เท่านั้น แต่ยังรวมถึง พี่ ๆ ไรด์เดอร์ส่งอาหาร, ร้านอาหารและสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Grab, Line Man, Food Panda อีกด้วย ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ก็สามารถขอสินเชื่อได้แล้ว! 

สำหรับผู้ที่สนใจขอสินเชื่อพิโก กับ Pico เงินด่วน เพียงแค่แอด Line: @picoth หรือ กดปุ่ม “สมัครเลย” บนหน้าเว็บไซต์ และทำตามขั้นตอนที่กำหนด ก็สามารถขอสินเชื่อกับเราได้แล้ว

ซึ่งในวันนี้ Pico เงินด่วน จะพาคุณมารู้จักกลลวงที่เหล่าแอปฯกู้เงินออนไลน์ มักจะใช้เพื่อหลอกลวงผู้บริโภคกัน เพื่อให้คุณรู้ทัน และไม่หลงกลลวงเหล่านี้ จนต้องจมอยู่ในห่วงหนี้ที่ไม่มีจบสิ้น จะมีกลลวงอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

รู้ทันกลลวงมิจฉาชีพ ก่อนกู้เงินออนไลน์

1. โฆษณาเกินจริง
   

   “การันตีอนุมัติเร็วทันใจ ใน 3 นาที!” เห็นแบบนี้เชื่อว่า คนที่กำลังต้องการใช้เงินมาก ๆ คงจะต้องรีบคลิกเข้าไปอย่างแน่นอน เพราะสถาบันทางการเงินโดยส่วนใหญ่ มักจะใช้เวลาในการอนุมัติสินเชื่ออย่างน้อย 3-5 วัน ทำให้หลายคนมักจะให้ความสนใจกับคำโฆษณาเหล่านี้เป็นอย่างมาก จนอาจจะละเลยการอ่านเงื่อนไข หรือรายละเอียดสินเชื่อต่าง ๆ ทำให้มีปัญหาตามมามากมาย เช่น อัตราดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด ถูกเจ้าหนี้ตามหนี้โหด เป็นต้น

2. ขอเอกสารส่วนตัว
   

   หากแหล่งเงินกู้ออนไลน์ที่คุณเลือก มีการขอเอกสารส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็น สำเนาบัตรประชาชน หน้าสมุดบัญชี หรือสำเนาทะเบียนบ้าน ไม่ควรให้เด็ดขาด เพราะเราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการ หากให้เอกสารเหล่านี้ไป มิจฉาชีพอาจนำไปใช้ในการทำทุจริตรูปแบบต่าง ๆ ได้
   ทางที่ดี หากต้องมีการส่งเอกสารส่วนตัวให้กับแหล่งเงินกู้ออนไลน์ที่คุณเลือกจริง ควรจะตรวจสอบข้อมูลของผู้ให้บริการที่เลือกให้ถี่ถ้วนก่อนเสมอ หรือหากสามารถนัดหมายกับเจ้าหน้า/เข้าไปติดต่อ เพื่อส่งเอกสารได้ด้วยตัวเองจะดีกว่า

3. ให้โอนค่าธรรมเนียมก่อน
   

   แหล่งเงินกู้ออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือส่วนใหญ่ มักจะมีการละเว้นค่าธรรมเนียมการดำเนินเอกสาร หรืออากรแสตมป์เพิ่มเติม เพื่อลดภาระให้แก่ผู้ขอกู้ หากแหล่งเงินกู้ออนไลน์ที่คุณเลือกให้คุณโอนเงินก่อน ไม่ว่าจะบอกว่าเป็นค่าดำเนินการ ค่าธรรมเนียมใด ๆ ก็ตาม ให้คิดไว้ก่อนเลยว่า เป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน เพราะเราจะเห็นในข่าวได้ประจำว่า เมื่อผู้กู้โอนเงินไปแล้ว ผู้ให้บริการกลับเงียบหาย หรือบล็อคช่องทางการติดต่อไปเลย

Pico เงินด่วน แหล่งเงินกู้ออนไลน์ ได้เงินจริง! ติดบูโรก็กู้ได้

Pico เงินด่วน เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ ที่ดำเนินการให้บริการปล่อยสินเชื่อรายบุคคลแบบไม่มีหลักประกันมายาวนานกว่า 5 ปี ซึ่งเราได้รับการรับรอง และถูกกำกับโดยกระทรวงการคลัง ที่สำคัญคือ เราได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ให้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่เพิ่มขึ้น

ซึ่ง Pico เงินด่วน เข้าใจและพร้อมให้บริการสินเชื่อกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทุกท่าน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการโดนตามทวงหนี้ และการเกิดหนี้ซ้ำซ้อนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกฎหมายกำหนด โดยข้อดีของการขอสินเชื่อกับ Pico เงินด่วน มีดังนี้

• ให้วงเงินกู้สูง: โดยให้วงเงินสูงสุดถึง 50,000 บาท 

• กำหนดอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย: โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.99% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก

• อนุมัติไว: Pico เงินด่วน อนุมัติสินเชื่อภายใน 3 วัน

• ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่มีค่าธรรมเนียมในการให้บริการ
• ถูกกฎหมาย: Pico เงินด่วน ได้รับการรับรองจากกระทรวงการคลัง ใบอนุญาตเลขที่ 273/2561 และดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลจากกระทรวงการคลัง

ถูกใจ Pico เงินด่วน ขอสินเชื่อง่าย ใน 3 ขั้นตอน

1. แอดไลน์ @picoth หรือกดปุ่ม “สมัครเลย” ที่อยู่ในหน้าเว็บไซต์ จากนั้นกรอกและตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วน ใส่เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
2. หากประเมินว่าผ่านเกณฑ์ในเบื้องต้น จะได้รับลิงก์แบบฟอร์มเอกสาร
3. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ส่งเอกสารตัวจริงมาที่ บริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด 199/9 ซอยสุขุวิท16 (สามมิตร) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 จากนั้นรออนุมัติผลภายใน 3 วัน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 3 กลโกงของเหล่ามิจฉาชีพที่เราได้รวบรวมมา เชื่อว่าคงจะเป็นประโยชน์ให้แก่คนที่กำลังตัดสินใจขอสินเชื่อได้ไม่มากก็น้อย แต่หากคุณกำลังมองหาแหล่งเงินกู้ออนไลน์ที่น่าเชื่อ และทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะถูกโกงเงิน ก็อย่าลืมนึกถึง Pico เงินด่วน 

ผู้ให้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ แบบไม่มีหลักประกันมายาวนานกว่า 5 ปี พร้อมได้รับการรับรอง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาสภาพคล่องจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน หากสนใจขอสินเชื่อกับเรา สามารถติดต่อได้ที่ Line @picoth หรือกดปุ่ม “สมัครเลย” ที่อยู่ในหน้าเว็บไซต์